นำเที่ยวเกาะSentosa

มีสถานที่อยู่สถานที่หนึ่งที่อยากแนะนำคนที่กำลังคิดจะไปทัวร์สิงคโปร์ให้ได้ไปเยือนสักครั้งหนึ่งเพราะเนื่องจากสานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องของสีสันยามราตรีและแหล่งบันเทิงอย่างครบวงจรซึ่งว่ากันว่าหากนักท่องเที่ยวสิงคโปร์และต้องการที่จะเที่ยวสถานที่แห่งนี้อย่างจริงจังแล้วล่ะก็ต้องใช้เวลาในการเดินสำรวจรอบๆกันหลายวันเลยทีเดียวซึ่งสถานที่ๆ ผมว่านี้มีชื่อว่า “เกาะ Sentosa”ครับ                เกาะ Sentosa นี้เดิมทีเป็นเพียงแค่เกาะหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะสิงคโปร์ แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนปรับปรุงแห่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงจรและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Sentosa ซึ่งมีความหมายว่าความสงบสุข ดังนั้นชื่อเกาะ Sentosa จึงหมายถึงเกาะแห่งความสงบสุขนั่นเองครับ ในปัจจุบันเกาะ Sentosa สิ่งอำนวยความสะดวก สถานบันเทิง มีเครื่องเล่น สวนสนุกและพิพิธพัณฑ์ต่างๆมากมายให้นักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์สิงคโปร์ได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์กันรวมไปถึงสวนสนุกชื่อดังระดับโลกอย่าง Universal Studio Singapore ตั้งอยู่บนเกาะแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนใครก็ตามที่ชอบดูการแสดงประเภท light and sound หรือการโชว์แสงสีเสียงแบบตระการตาก็ต้องไม่พลาดการมาเยือนเกาะ Sentosa แห่งนี้ครับเพราะในยามค่ำคืนของทุกคืนเขาจะมีการแสดง Songs Of The Sea บริเวณริมชายหาดซึ่งเสียค่าเข้าชมเพียง 10 ดอลลาร์สิงคโปร์เท่านั้นครับ ซึ่งเจ้าการแสดง Songs Of The Sea นี้ในแต่ละวันเขาจะมีการแสดง 2 รอบคือช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. หนึ่งรอบและรอบสุดท้ายเวลาประมาณ 20.40 น.โดยใช้เวลาแสดงประมาณ 1 ชั่วโมงต่อรอบครับ

ท่องเที่ยวตามรอยตำนาน “แดร๊กคิวล่า”

นับตั้งแต่นวนิยายคลาสสิกเรื่อง “แดร๊กคิวล่า” ของบราม สโตกเกอร์ นักเขียนชื่อดังชาวไอริชอุบัติขึ้นมาในค.ศ. 1897 และมีการนำไปสร้างเป็นหนังผีสยองขวัญมากมายหลายเวอร์ชั่น ชาวโลกจึงรู้จักปราสาทบรานที่ถูกกล่าวถึงในนวนิยายเล่มนี้ในฐานะ “ปราสาทแดร๊กคิวล่า” และนำไปสู่ความเชื่อว่าเป็นปราสาทผีดิบจริงๆเลยกลายเป้นที่มาของทริปชวนเที่ยวสถานที่ที่เป็นตำนานอันเก่าแก่  วันนี้ทัวร์ยุโรปจะพาคุณลัดเลาะเที่ยวปราสาทบรานกัน ตำนานแวมไพร์ถูกเชื่อกันว่ามีต้นตอมาจากการปรากฎตัวของศพที่กำลังย่อยสลายในช่วงที่มีโรคระบาดหรือภัยพิบัติที่กวาดล้างยุโรปในช่วงยุคกลาง ตำนานดังกล่าวมีบทบาทสำคัญต่อคนในคาบสมุทรบอลข่านและเป็นที่มาของนวนิยายเรื่อง “แดร๊กคิวล่า” ที่นำเอาเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์จริงสมัยเจ้าชายวลาด เทเปส มาผูกเป็นเรื่องว่าพระองค์มาพักที่ปราสาทบรานและเป็นท่านเคาท์แดร๊กคิวล่าที่นอนในโลงศพตอนกลางวัน และลุกขึ้นมาตอนกลางคืนเพื่อดูดเลือดเหยื่อสาวสวย               แม้ว่านิยายเรื่องนี้จะได้รับแรงบันดาลใจจากทรานซิลวาเนียและเจ้าชายวลาด แต่บรามคนเขียนก็ไม่เคยเดินทางไปที่นั่น และคนท้องถิ่นก็รู้สึกไม่ดีที่มีการนำเมืองของพวกเขาไปใช้เป็นตำนานแวมไพร์ อีกทั้งพวกเขายังเคารพนับถือเจ้าชายวลาดว่าเป็นฮีโร่ที่ทรงต่อต้านจักรวรรดิออตโตมานมากกว่าที่จะเป็นแวมไพร์กระหายเลือด จะว่าไปแล้ว ชาวท้องถิ่นเองก็อาจจะต้องขอบคุณบรามด้วย เพราะไม่เช่นนั้นปราสาทบรานคงไม่กลายเป็นไฮไลท์แหล่งท่องเที่ยวของโรมาเนีย ปราสาทบรานแห่งโรมาเนียสร้างขึ้นในปี คศ.1212 โดยอัศวินชาวเยอรมัน และเป็นปราสาทของเจ้าผู้ครองแคว้นทรานซิลวาเนีย ปราสาทสไตล์โกธิคที่มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปีนี้ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงใกล้เมืองบราชอฟ เพื่อใช้เป็นป้อมปราการที่ป้องกันการรุกรานจากข้าศึกพวกเติร์กแห่งอาณาจักรออตโตมาน ขณะนั้นโรมาเนียแบ่งเป็นแคว้นทรานซิลวาเนียกับวัลลาเชีย ตอนนั้นมีเจ้าชายผู้กล้าคนหนึ่งคือ เจ้าชายวลาด เทเปส ที่ปฏิบัติการรบต่อต้านการโจมตีของพวกเติร์กอย่างแข็งขัน จนเป็นที่เลื่องลือในความเก่งกล้า บ้าบิ่นและเหี้ยมโหดต่อศัตรูผู้รุกราน แม้จะกลายเป็นเจ้าของตำนานความโหดเหี้ยม แต่พระองค์ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ แคว้นทรานซิลวาเนียซึ่งเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนียยังคงมีเมืองเก่าสมัยยุคกลางที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดในยุโรปหลงเหลือให้เห็น โดยเฉพาะเมืองบราชอฟ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นที่ยังคงมีสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษโบราณและซากปรักหักพังของป้อมปราการหลงเหลืออยู่ เมืองสวยอย่างซีบิวที่มีถนนที่ปูด้วยหินกรวดและบ้านเรือนที่ทาสีพาสเทล และเมืองซีกิชัวร่าที่มีป้อมปราการเก่า ทางเดินลับและหอนาฬิกาสมัยศตวรรษที่ 14 รวมถึงร้านค้าเล็กๆ ที่ขายวัตถุโบราณและสินค้าที่ทำด้วยมือโดยช่างฝีมือท้องถิ่นและศิลปิน ไม่ไกลจากเมืองบราชอฟและปราสาทบรานเป็นที่ตั้งของเมืองฮาร์มาน ซึ่งเป็นเมืองที่มีโบสถ์ที่สร้างเป็นป้อมปราการหลายแห่ง เช่น โบสถ์ฮาร์มานและโบสถ์แพรช์แมร์… Continue reading ท่องเที่ยวตามรอยตำนาน “แดร๊กคิวล่า”

เรียนคำศัพท์ง่ายๆ เพื่อเที่ยวสบายๆในญี่ปุ่น

รู้สึกว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ถ้าไปเที่ยวในประเทศที่มีความเป็นชาตินิยมสูง ถ้าพูดภาษาประเทศนั้นไม่ได้  พวกเขามักจะพกดิคชั่นนารีหรือ Talking Dictionary ไปด้วยเสมอ อย่างน้อยก็ทำให้อุ่นใจเวลาที่สื่อสารไม่ได้ไงจ้ะ  แต่จะไปเที่ยวทั้งที่แต่ต้องแบกดิคชั่นนารีไปด้วยก็ดูกระไรอยู่  วันนี้ทัวร์ญี่ปุ่นเลยมาเป็นติวเตอร์สอนคำศัพท์ง่ายๆ ให้คุณไปเที่ยวได้แบบสบายๆกันจ้ะ  อรุณสวัสดิ์ O hai yo. = โอะฮายโย  สวัสดีตอนเที่ยง konnichiwa.= คอนนิจิวะ  สวัสดีตอนเย็น konban wa. = คอนบังวะ   ราตรีสวัสดิ์ O yasuminasai. = โอะ ยาสุมินาไซ   การขานตอบ และ การขออนุญาติ  ไปแล้วนะ aig te kimasu. = อิก เตะ คิมัส  รีบกลับมานะ aig te ra shai = อิก เตะระชาอิ(ไช)  กลับมาแล้ว tadaima. = ทะ… Continue reading เรียนคำศัพท์ง่ายๆ เพื่อเที่ยวสบายๆในญี่ปุ่น

เครื่องสำอางของฝากจากประเทศเกาหลี

ลองคิดกันดูเล่นๆ ว่าหากคุณได้มีโอกาสได้ไปทัวร์เกาหลีในขณะที่เพื่อนๆ ของคุณกำลังเฝ้ารอของฝากจากการไปทัวร์เกาหลีของคุณ คุณจะซื้ออะไรมาฝากพวกเขาเหล่านั้น บางคนอาจจะกำลังมองหานมกล้วยที่ขึ้นชื่อลือชาของแดนกิมจิ บางคนอาจจะหอบสังขารแบกกิมจิมาจากเกาหลีทั้งๆ ที่สามารถหากซื้อกินกันได้ที่ประเทศไทยแต่ถ้าจะให้ผมแนะนำแล้วผมเชื่อว่าการซื้อเครื่องสำอางจากที่นั่นมาฝากบรรดาสาวๆ บ้านเราดูจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดครับเพราะเนื่องจากว่าประเทศเกาหลีนั้นได้ชื่อว่าเป็นประเทศแห่งความสวยความงามที่สุดแห่งหนึ่งในเอเซีย                อุตสาหกรรมด้านความสวยความงามของประเทศเกาหลีนั้นขึ้นชื่อลือชามากทีเดียวครับเรียกได้ว่าหน้าตาธรรมดาๆ หากไปทัวร์เกาหลีเพื่อทำศัลยกรรมกลับมารับรองทั้งหล่อ ทั้งสวยทุกรายไปครับซึ่งทางประเทศเกาหลีนี้เขาไม่ได้เชี่ยวชาญแต่เรื่องศัลยกรรมเท่านั้นนะครับหากแต่ยังรวมไปถึงเรื่องการผลิตเครื่องสำอางประทินผิวอีกด้วยดังจะเห็นได้จากเครื่องสำอางแบรนด์ดังๆ มากมายก็ล้วนแล้วแต่มาจากประเทศเกาหลีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นครีมมาสก์หน้า Snow Cream ครีมหน้าขาว ขจัดฝ้า ลดริ้วรอยต่างๆ ล้วนมีให้เลือกทั้งสิ้น                แต่อย่างไรก็ตามมีคำแนะนำและข้อเสนอแนะจากผู้ที่เคยไปทัวร์เกาหลีมาก่อนสำหรับผู้ที่คิดจะซื้อเครื่องสำอางจากประเทศเกาหลีมาเป็นของฝากว่าหากซื้อในปริมาณที่มากๆ ควรที่จะซื้อในร้าน Duty Free ที่อยู่ในบริเวณสนามบินจะได้ในราคาที่ถูกกว่าตามท้องตลาดทั่วไปอีกทั้งยังไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกหลอกขายเครื่องสำอางปลอมอีกด้วยครับ

คำแนะนำสำหรับการไปทัวร์พม่า

2 บทความที่ผ่านมาได้นำทุกท่านให้ไปรู้จักกันกับประวัติความเป็นมาของประเทศพม่ารวมไปถึงการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ สำหรับผู้ที่กำลังคิดที่จะไปทัวร์พม่ากันไปแล้วเชื่อเหลือเกินครับว่าหลายคนคงอยากที่จะรู้แล้วว่าประเทศพม่านั้นมีสถานที่ไหนน่าท่องเที่ยวกันบ้างซึ่งก่อนจะไปถึงตรงนั้นยังมีรายละเอียดอีกเล็กน้อยสำหรับคนที่จะไปทัวร์พม่าควรรู้เอาไว้เพื่อไม่ให้ทำผิดกฎของประเทศเขาครับ ซึ่งเรื่องที่นักท่องเที่ยวหรือคนที่ไปทัวร์พม่าควรรู้ไว้มีดังต่อไปนี้ครับ                หากเราคิดจะไปติดต่อสถานที่ราชการของพม่าเราควรที่จะรู้ไว้ว่าเวลาทำการของสถานที่ราชการที่นั่น จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น.และหยุดทำการในวันเสาร์ อาทิตย์  นอกจากนี้นักท่องเที่ยวห้ามถ่ายรูปในบริเวณสถานีรถไฟ สนามบิน และสถานที่ราชการที่มีทำการของทหารตั้งอยู่ใกล้เคียงโดยเด็ดขาดและเมื่อจะถ่ายรูปกับชาวพม่าก็ควรขออนุญาตเขาก่อนทุกครั้ง การท่องเที่ยวในพม่านั้นควรที่จะเตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบายและไม่อึดอัดถ้าต้องการไปเที่ยวบริเวณเทือกเขาตอนเหนือในช่วงฤดูหนาวควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย นักท่องเที่ยวควรให้ความเคารพแก่สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นโบราณสถานหรือวัดวาอารามของประเทศพม่าอย่างเคร่งครัดอีกทั้งการจัดซื้อของประเภทเครื่องประดับเพชรพลอย หรือ สินค้าจำพวกวัตถุโบราณนั้นควรซื้อจากร้านที่มีใบรับรองจากภาครัฐหรือร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงมิฉะนั้นจะไม่สามารถนำออกนอกประเทศพม่าได้ส่วนใครที่อยากซื้อของปลอดภาษีทางพม่าเขาก็มีร้านขายสินค้าปลอดภาษีในอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออกของสนามบินนานาชาติย่างกุ้งให้ได้เลือกซื้อกันครับ